เรารู้จักธุรกิจของ SCC ดีแค่ไหน ? | ในวันที่หลุด 400 บาทมาแล้วกว่า 5 ปี

Pakpoom Poom
3 min readFeb 1, 2020

--

คงมีหลายคนที่ชอบหุ้นตัวนี้เพราะเป็นหุ้นใหญ่ พื้นฐานดี มั่นคง ยังไงก็ไม่ล้ม

จนบางครั้งเรามักจะได้ยินคำพูดที่ว่า…

“ ถ้าซื้อตั้งแต่เข้าตลาด ถือลืม เก็บมาถึงวันนี้ ผลตอบแทน 300–400 เท่า รวยไปแล้ว ”

แต่คำถามคือ เรารู้จักธุรกิจของ SCC ดีพอหรือยัง ?

SCC หรือ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย ประกอบธุรกิจหลัก 3 ธุรกิจ ได้แก่ 1.ธุรกิจเคมิคอลส์ 2.ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง 3.ธุรกิจแพคเกจจิ้ง

โดยหลายคนมักจะคิดว่า ขายปูนเป็นหลัก แต่ไม่ใช่เลยครับ เราจะสังเกตได้จากสัดส่วนของรายได้และกำไร ดังนี้

สัดส่วนรายได้ : 41% Chemical, 39% Cement และ 20% Packaging
สัดส่วนกำไร : 48% Chemical, 17% Cement, 16% Packaging และ 19% อื่น ๆ

https://scc.listedcompany.com/misc/PRESN/20200129-scc-presentation-am-4q2019-02.pdf

รายได้อาจดูไม่ต่างกันมากระหว่างเคมิคอลส์กับปูนซีเมนต์ (เพราะเคมิคอลส์ลงมาค่อยข้างเยอะจากในอดีต) แต่ถ้าดูกำไรจะเห็นว่าเกือบครึ่งนึงของ SCC มาจากธุรกิจเคมิคอลส์ ขณะที่ปูนซีเมนต์คิดเป็นแค่ 1 ใน 4 ของกำไรเท่านั้น หรือสะท้อนได้ว่าผลิตภัณฑ์ปูนซีเมนต์อาจจะขายไม่ค่อยได้กำไรเท่ากับขายเคมีภัณฑ์ และถ้าเราลองสังเกตสินค้าส่วนใหญ่ของ SCC จะค่อนข้าง commodity คือขึ้นอยู่กับปัจจัยราคาน้ำมัน พลาสติก และเยื่อกระดาษเป็นหลัก

หลังจากเราเข้าใจภาพรวมโครงสร้างธุรกิจเบื้องต้นกันแล้ว ทีนี้ถึงเวลามาดูส่วนที่สำคัญที่สุดอย่าง “ งบการเงิน ” กันบ้างนะครับ

เมื่อ 29 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา SCC ได้ประกาศงบ Q4’62 ออกมาพบว่ารายได้ลดลง 9% กำไรสุทธิลดลง 32% สาเหตุส่วนใหญ่มาจากผลการดำเนินงานของธุรกิจเคมิคอลส์ที่ลดลง โดยได้รับผลกระทบจากความกังวลต่อสถานการณ์สงครามการค้าและความผันผวนของตลาด ทำให้ส่วนต่างราคาสินค้าลดลง โดยเฉพาะราคาสินค้าเคมีภัณฑ์ ทำให้ภาพรวมทั้งปีกำไรลดลง 28% ทีนี้เราแล้วลองมาดูแต่ละธุรกิจเป็นไงกันบ้าง…

https://www.set.or.th/dat/news/202001/20007861.pdf

1.ธุรกิจเคมิคอลส์(Chemical) : ดำเนินธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายเคมีภัณฑ์ครบวงจร

ธุรกิจประเภทนี้จะพิจารณาจากปัจจัยของ HDPE, PP, Naphtha, PVC แต่แค่เห็นชื่อก็ปวดหัวแล้ว เราจึงอยากแนะนำให้จับหลักเบื้องต้น คือการดูค่า Spread เป็นหลัก โดย Spread จะคล้ายกับส่วนต่างของดอกเบี้ยเงินกู้และเงินฝากของหุ้นธนาคาร ที่ราคายิ่งกว้าง กำไรจะยิ่งดี

จากรายงาน Analyst Presentation พบว่าค่า Spread ของธุรกิจเคมิคอลส์ที่ผ่านมา ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงขาลง หลังผ่านจุดสูงสุดที่ Q1’18 ตัวอย่างที่เห็นชัดจาก HDPE-Naphtha Price Gap คือ Q1’18 = 798 $/Ton > Q1’19 = 573 $/Ton > Q2’19 = 539 $/Ton > Q3’19 = 457 $/Ton > Q4’19 = 301 $/Ton

https://scc.listedcompany.com/misc/PRESN/20200129-scc-presentation-am-4q2019-02.pdf

จึงไม่แปลกถ้าผลกำไรของ SCC ในช่วงที่ผ่านมาจะลดลง เพราะส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าได้รับผลกระทบจากปัจจัย Trade War กดดันให้ Demand ลดลง และปัจจัยจากด้านการผลิตที่ทำให้ Supply สูงขึ้น หรืออีกความหมาย คือ สินค้ามีเยอะขึ้น แต่คนซื้อลดลง ราคาขายต้องลดลงตาม และ spread ก็มีแนวโน้มจะลดลงได้อีก

แต่สิ่งที่น่าจับตามองต่อไป คือ สงครามการค้าระหว่างจีนกับอเมริกา หลังทำข้อตกลงร่วมกันแล้ว จะมีแนวโน้มทิศทางอย่างไรต่อ รวมถึงปัญหาภัยแล้งในประเทศ ที่อาจจะกระทบกำลังการผลิตของธุรกิจเคมิคอลส์

2.ธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง(Cement) : ดำเนินธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายปูนซีเมนต์ คอนกรีต กระเบื้องมุงหลังคา กระเบื้องเซรามิก สุขภัณฑ์ และถังเก็บน้ำ เป็นต้น

เริ่มที่สัดส่วนตลาดของรายได้จากการขาย พบว่า 65% ของยอดขายอยู่ในประเทศ 29% ในอาเซียน ดังนั้น ต้องดูสถานการณ์ในประเทศเป็นหลัก

ตลาดภายในประเทศเติบโต +1% จากราคาปูนปรับขึ้นมาที่ 1,750–1,800 บาท/ตัน แต่ความต้องการสินค้าลดลง ซึ่งพอจะเข้าใจได้จากงานโครงการก่อสร้างพื้นฐานยังล่าช้าอยู่ รวมถึงโครงการอสังหาฯ ในปีที่ผ่านมา ยังไม่ค่อยสดใสมากนัก ทำให้สุดท้ายภาพกำไรของธุรกิจยังไม่เติบโตมาก เนื่องจากตลาดในประเทศเป็นสัดส่วนใหญ่ แล้ว Demand ที่ยังไม่ฟื้น

แต่สิ่งที่น่าจับตามองต่อไป คือ ผลกระทบจากการอนุมัติงบประมาณรายจ่ายแผ่นดินปี 2563 ที่ล่าช้ามาแล้วกว่า 4 เดือน โดยเมื่อรัฐยังไม่อนุมัติเงิน ย่อมจะส่งผลต่อแผนการลงทุนและการประมูลโครงการของรัฐบาล โดยเฉพาะกลุ่มรับเหมาและวัสดุก่อสร้างต่อไป

https://scc.listedcompany.com/misc/PRESN/20200129-scc-presentation-am-4q2019-02.pdf

3.ธุรกิจแพคเกจจิ้ง (Packaging) : ดำเนินธุรกิจผลิตและจัดจำหน่าย เยื่อกระดาษ กระดาษอุตสาหกรรม และบรรจุภัณฑ์ เป็นต้น

เป็นอีกธุรกิจที่ขึ้นอยู่กับตลาดในประเทศมากเช่นกัน 57% ของยอดขายมาจากไทย 14% มาจากเวียดนาม

ถ้ามาเจาะลงรายอุตสาหกรรมพบว่า 39% มาจากกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งภาพรวม Demand เพิ่มขึ้น ในช่วงสิ้นปีที่ผ่านมาได้อานิสงส์งานเทศกาลต่างๆ (festive season) ทำให้ปริมาณความต้องการในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มเพิ่มขึ้น

รวมถึงที่ผ่านมาได้ซื้อกิจการอื่นมาเพิ่ม ทำให้รายได้เพิ่มมากขึ้น แต่ภาพรวมกำไรลดลง 13% เพราะได้รับผลกระทบจากส่วนต่างราคาสินค้าของสายธุรกิจเยื่อและกระดาษที่ลดลง ประกอบกับต้นทุนทางการเงินและค่าเสื่อมราคาเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตามที่ทั้งธุรกิจ Packaging และ Cement นี้ก็ยังไม่เพียงพอที่จะ cover ในส่วนของธุรกิจ Chemical ที่หายไปได้

กระทบอย่างไร :

ผลประกอบการของ SCC อาจจะยังไม่ค่อยประทับใจนักลงทุนมาก สะท้อนจากราคาหุ้นที่เคยสูงสุดถึง 550 บาท แต่ปัจจุบันตกลงอยู่ที่ราคา 358 บาท หรือเรียกได้ว่าหลุดจาก 400 บาท มานานแล้วกว่า 5 ปี เพราะเมื่อมองไปที่ผลประกอบการที่ผ่านมา แม้จะมีรายได้เพิ่มขึ้นมีการเติบโต แต่กำไรสุทธิมีแนวโน้มลดลงเรื่อยๆ พร้อมกับ Net Margin ที่ถดถอยลง นี้จึงอาจจะเป็นปัจจัยสำคัญ

มุมมอง :

เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ผ่านมามีแนวโน้มชะลอตัว ย่อมส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานธุรกิจ ซึ่งจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับโครงสร้างของผลกำไรว่าพึ่งพาธุรกิจที่มีเสถียรภาพหรือมีความผันผวนมากกว่ากัน โดย SCC ยังต้องพึ่งพิงธุรกิจเคมิคอลส์เป็นตัวขับเคลื่อนหลักซึ่งยังอยู่ในภาวะผันผวนของตลาดที่ต้องจับตามอง

แต่อย่างไรก็ดี SCC มีแผนกระจายความเสี่ยงด้วยการขยายตลาดการลงทุนธุรกิจต่างๆ ในอาเซียนและพัฒนาธุรกิจหลักอื่นๆ เช่น ธุรกิจแพคเกจจิ้ง ซึ่งเป็นธุรกิจปลายน้ำที่กำลังจะมีกำไรดี และการมีนวัตกรรมสินค้าและบริการที่สร้างมูลค่าเพิ่มได้ค่อนข้างสูง(High Value-Added) รวมถึงการได้รับอนุมัติงบประมาณแผนการลงทุนต่างๆของรัฐใน 2–3 เดือนข้างหน้า จึงทำให้องค์กรจะสามารถผ่านพ้นเศรษฐกิจที่กำลังอยู่ในช่วงผันแปรนี้ไปได้ และถือเป็นโอกาสที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนต่อไป

สุดท้ายที่อยากฝากไว้คือ ถ้าเราเข้าใจ Business Model จะทำให้เราเห็นภาพโครงสร้างของธุรกิจง่ายขึ้น เข้าใจตัวเร่ง รวมถึงปัจจัยความเสี่ยง บวกกับทิศทางของตลาดได้

หมายเหตุ: การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุน บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาชี้นำให้ซื้อหรือขายหุ้นตัวนี้ โดยข้อมูลทั้งหมดในบทความนี้ ผู้เขียนอ้างอิงจาก Analyst Conference Q4/19 ที่เผยแพร่ผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น

ขอบคุณข้อมูล

--

--

Pakpoom Poom
Pakpoom Poom

Written by Pakpoom Poom

My journey | Lifelong Learning : Learn – Unlearn – Relearn

No responses yet