ปีนี้ LTF ยังน่าซื้ออยู่ไหม ถ้าไม่ให้สิทธิลดหย่อนภาษีต่อไปแล้ว…
ช่วงโค้งสุดท้ายของปีถือเป็นช่วงเวลาของมนุษย์เงินเดือนที่เสียภาษี ต้องมองหาเครื่องมือมาช่วยบริหารจัดการภาษีเงินได้ของตนเอง โดยสิ่งหนึ่งที่เรามักเลือกนำมาลดหย่อนภาษี คือ “ กองทุนรวมหุ้นระยะยาว(Long Term Equity Fund) ” หรือที่รู้จักกันในชื่อกองทุน LTF ซึ่งปีนี้เป็นปีสุดท้ายที่จะสามารถนำเงินที่ซื้อ LTF มาใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได ้หลังรัฐบาลออกมาประกาศชัดเจนว่าไม่ต่ออายุให้นำ LTF มาลดภาษีได้ในปีต่อไป
Note : กองทุน LTF ยังคงมีขายต่อไปเรื่อยๆ เพียงแต่คนที่ซื้อ LTF ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2563 เป็นต้นไป จะถูกยกเลิกการใช้สิทธิลดหย่อนภาษีทันที
ทำให้บางคนก็เริ่มรู้สึกว่า จะเอายังไงต่อดี เราควรจะซื้อ LTF อยู่ไหม ซึ่งผมเชื่อว่าน่าจะมีหลายๆ คนที่กำลังสงสัยในประเด็นเหล่านี้ เลยขออธิบายผ่านคำถามในบทความนี้ เพื่อให้ทุกคนได้ลองอ่านกัน
- มูลค่าหน่วยลงทุนของกองทุน LTF จะลดลงหรือไหม ถ้าไม่มีเงินมาซื้อกองพวกนี้อีก และมีแต่คนขายในปีต่อๆ ไป ?
ถ้าไม่มีสิทธิประโยชน์ทางภาษีในการลดหย่อนแล้ว กองทุน LTF เหล่านี้ จะกลายเป็นกองทุนรวมหุ้นแบบทั่วไปๆ ที่สามารถซื้อขายได้ตามปกติ (แต่สำหรับคนที่ซื้อ LTF แล้วภายในปีนี้ ก็ยังติดเงื่อนไขที่ควรถือครองให้ครบก่อน)
ส่วนมูลค่าหน่วยลงทุนของกองนั้น จะคำนวณจาก มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกอง(NAV) หารด้วยจำนวนหน่วยลงทุน ซึ่ง NAV นั้นจะคำนวณจากมูลค่าทรัพย์สินสุทธิตามราคาตลาดของแต่ละหลักทรัพย์ที่กองทุนรวมถืออยู่ในแต่ละวัน (Mark to Market) คือ ราคาปิดของหุ้นแต่ละตัว และมูลค่าทรัพย์สินอื่นๆ ที่กองถืออยู่ ดังนั้นมูลค่าหน่วยลงทุนจะเพิ่ม/ลด จะขึ้นกับผลงานของกองทุนรวม ไม่ได้ขึ้นกับขนาดของกองทุน หรือที่บอกกันว่า “ ราคาจะร่วงเพราะต่อไปจะไม่มีคนซื้อ LTF แล้ว ตามหลักอุปสงค์อุปทานว่าของที่ไม่มีคนอยากได้ ราคาก็จะถูกลง ” นั้นก็น่าจะเป็นความเข้าใจที่ผิดเช่นกัน
สุดท้ายสำหรับใครที่กำลังคิดว่าจะซื้อดีไหม อยากให้ลองพิจารณาอีกครั้ง แต่ถ้ารู้สึกว่า การลงทุนในกองทุนรวมหุ้น LTF นั้นมีความเสี่ยง รู้สึกไม่สบายใจที่จะซื้อ และไม่เหมาะกับเรา แต่ยังคงต้องการลงทุนที่สามารถลดหย่อนภาษี และออมได้อยู่ ก็อยากแนะนำให้มองหากองทุน RMF หรือประกันต่างๆ ที่มีให้เลือกหลากหลายสินทรัพย์ หลายประเภท เพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจนะครับบ
อีก 7 วันจะสิ้นเดือน . . .
อีก 1 เดือนจะสิ้นปีแล้ว. . . เวลามันผ่านไปเร็วมาก
อย่าลืมเริ่มต้นตั้งเป้าหมายทางการเงิน แล้วหาเครื่องมือมาช่วยบริหารจัดการภาษีก่อนสิ้นปีนี้กันนะครับ